สวัสดีครับวันนี้จะขอบันทึกเกี่ยวกับคำสั่งการค้นหาไฟล์ที่ชื่อว่า findstr
ปัญหามีอยู่ว่าในการเขียนโปรแกรมจะต้องมีไฟล์จำนวนมาก กรณีตัวอย่างเป็นไฟล์ประเภท .sql โปรแกรมที่เขียนก็เกี่ยวข้องกันหมด ถ้าต้องการจะแก้หรือหาข้อความเพื่อแก้ไข เราต้องทำการเปิดไฟล์ทุกไฟล์ขึ้นมาแล้วค้นหาคำที่ต้องการ
เลยลองค้นหาในอินเตอร์เน็ตดู พบว่าทางฝั่ง Window มีโปรแกรมช่วยที่ชื่อว่า findstr สามารถค้นหาข้อความที่เป็น String รายละเอียด สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ Findstr
เมื่อเราต้องการหาข้อความสตริง "select" ก็ใช้คำสั่ง
วันอังคารที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556
วันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2556
How to solve PHP Fatal error: Class 'PDO' not found on Fedora.
PHP Fatal error: Class 'PDO' not found
วิธีแก้ error Class 'PDO' not found ก็คือ ให้เราติดตั้ง php-pdo ลงใน fedora โดยการรันคำสั่ง
su
yum install php-pdo
วันพุธที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2556
วิธีการตั้งค่า IMAP ของ Evolution Mail
วิธีการตั้งค่า IMAP ของ Evolution Mail
โดยปกติแล้วถ้าเราตั้งค่า Email ด้วย Gmail, Yahoo จะค้นหา Server ให้โดยอัตโนมัติและมีให้เลือกทั้งแบบ POP3 และ IMAP
แต่ถ้าเราใช้อีเมล @hotmail.com โปรแกรม evolution จะไม่สามารถค้นหา Sever ให้อัตโนมัติได้
วันนี้จะขอเขียนวิธีการตั้งค่า Server แบบ imap ของ outlook.com
เริ่มต้นจากการเข้าไปตั้งค่าต่างๆ Email
โดยปกติแล้วถ้าเราตั้งค่า Email ด้วย Gmail, Yahoo จะค้นหา Server ให้โดยอัตโนมัติและมีให้เลือกทั้งแบบ POP3 และ IMAP
แต่ถ้าเราใช้อีเมล @hotmail.com โปรแกรม evolution จะไม่สามารถค้นหา Sever ให้อัตโนมัติได้
วันนี้จะขอเขียนวิธีการตั้งค่า Server แบบ imap ของ outlook.com
เริ่มต้นจากการเข้าไปตั้งค่าต่างๆ Email
- เลือก Edit > Preferences > เลือก Mail Accounts
- จากนั้นกดปุ่ม Add
- กดปุ่ม Continue
วันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2556
How to Copy, cut and paste in Vim editor
วิธีการ Cut and Paste
วิธีการ Copy & Paste
จำทำลักษณะคล้ายกับการ Cut & Paste แต่ในขั้นตอนที่ 4 เปลี่ยนจากการกด d มาเป็น y แทน
ปล. (d:delete or y:yank).
- เลือก cursor ไปตำแหน่งแรกที่ต้องการจะ cut ข้อความ
- กด v เพื่อเลือกข้อความ (หรือกด V ตัวใหญ่เพื่อทำการเลือกทั้งบรรทัด)
- เลื่อน cursor ไปยังตำแหน่งสุดท้ายที่ต้องการ cut
- กดปุ่ม d
- จากนั้นเลือกตำแหน่งของ cursor ไปยังตำแหน่งที่ต้องการจะวางข้อความที่ cut ไว้
- กด P ตัวใหญ่เพื่อวางข้อความหลัง cursor , กด p ตัวเล็กเพื่อวางข้อความหน้า cursor
วิธีการ Copy & Paste
จำทำลักษณะคล้ายกับการ Cut & Paste แต่ในขั้นตอนที่ 4 เปลี่ยนจากการกด d มาเป็น y แทน
ปล. (d:delete or y:yank).
วันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2556
How to change default desktop location on Windows 7
To change your default desktop location and do the following:
- Open the Registry editor (Regedit.exe) Start > run > regedit [Enter]
- Browse to the location:
HKEY_CURRENT_USER> Software > Microsoft > Windows
> CurrentVersion > Explorer > User Shell Folders. - In the right window pane select the required value (i.e. Desktop).
- Insert the new location for the folder to be stored.
- Close the registry editor and log off.
วันเสาร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2556
How to set default browser when run or debug jDeveloper
Today, I will show you how to setup default browser when we run application in jdeveloper.
Normally, when you run or debug web application in jdeveloper the browser will open up and it is chosen by Operating System. If you don't like the browser. Can you changing it ?
Of course, you can change to other browser which installed on your computer. It's very easy.
I will show you step by step.
Step to change default browser in jdeveloper.
Step 1. run jdeveloper.
Step 2. select tools > preferences
Normally, when you run or debug web application in jdeveloper the browser will open up and it is chosen by Operating System. If you don't like the browser. Can you changing it ?
Of course, you can change to other browser which installed on your computer. It's very easy.
I will show you step by step.
Step to change default browser in jdeveloper.
Step 1. run jdeveloper.
Step 2. select tools > preferences
วันพฤหัสบดีที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2556
วิธีการปรับการแสดงผลของ Firefox ที่ใหญ่ผิดปรกติ
เมื่อทำการอัพเดท Firefox เวอร์ชั่น 22 รู้สึกว่าตอนใช้งาน อัตราส่วนของ Firefox ผิดไปจากปรกติ
เข้าไปค้นหาวิธีปรับตั้งค่าให้แสดงผลในอัตราส่วนปรกติเหมือน Firefox เวอร์ชั่นที่ผ่านๆมา
วิธีการก็มีดังนี้ครับ
วิธีการก็มีดังนี้ครับ
วันพุธที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
Reset LightDM Login to Default
Open Terminal
Run this command in the terminal
$ sudo dpkg-reconfigure lightdm
วันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2556
วันอังคารที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2556
หลังจากไม่ได้เขียน Blog มานานมาก
หลังจากไม่ได้เขียน Blog มานานมาก วันนี้เลยมาเขียนสักหน่อย เพื่อจะบอกว่ายังไม่ได้หายไปไหนนะครับ ตอนนี้ไม่มีเวลาจริงๆ ว่างๆหลังจากหลุดจากภาระหน้าที่ใหญ่หลวงนี้ได้ จะกลับมาเขียนอีกที แน่นอนยังเป็นเรื่องโปรแกรมมิงเช่นเคย
แต่คราวนี้จะออกไปเป็นแนวของ Oracle สักหน่อย อาจจะเอาไว้เตือนความจำตัวเองด้วย
วันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
วิธีการติดตั้ง JDeveloper สำหรับพัฒนา Oracle SOA service
ขั้นตอนแรกเลยนะครับ ต้องเตรียมไฟล์ที่ใช้ในการติดตั้งก่อน
เริ่มจากเข้าไปดูก่อนเลยครับว่า Jdeveloper version ไหนที่สามารถติดตั้ง Oracle SOA Composite Editor ได้
อันนี้สำคัญนะครับ ผมเคยโหลดผิด version มา extension นี้จะไม่ทำงานเลย
หลายคนอาจมีคำถามว่าแล้วเข้าไปดูได้ที่ไหนล่ะ แน่นอนครับต้องเขาไปดูที่เจ้าของเลยครับ Oracle
สิ่งที่ต้องดาวโหลดมี 2 อย่าง
Install JDeveloper Extension for SOA Technologies
เริ่มจากเข้าไปดูก่อนเลยครับว่า Jdeveloper version ไหนที่สามารถติดตั้ง Oracle SOA Composite Editor ได้
อันนี้สำคัญนะครับ ผมเคยโหลดผิด version มา extension นี้จะไม่ทำงานเลย
หลายคนอาจมีคำถามว่าแล้วเข้าไปดูได้ที่ไหนล่ะ แน่นอนครับต้องเขาไปดูที่เจ้าของเลยครับ Oracle
http://www.oracle.com/ocom/groups/public/@otn/documents/webcontent/156082.xmlเมื่อเลือก version ได้แล้วก็จัดการเริ่ม download กันได้เลยครับ
สิ่งที่ต้องดาวโหลดมี 2 อย่าง
- ตัวติดตั้ง Jdeveloper version ที่เลือกไว้(ต้องรองรับ SOA composite editor ด้วยนะครับ)
- Oracle SOA Suite
Install JDeveloper Extension for SOA Technologies
วันพฤหัสบดีที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2556
Populate current date use getCurrentDBDate()
SimpleAMImpl am = (SimpleAMImpl) pageContext.getApplicationModule(webBean); SimpleDateFormat format = new SimpleDateFormat(“yyyy-MM-dd hh:mm:ss.S”); SimpleDateFormat formatDate = new SimpleDateFormat(“yyyy-MM-dd hh:mm:ss”); oracle.jbo.domain.Date convertDate = applicationModule.getOADBTransaction().getCurrentDBDate(); java.util.Date date = format.parse(convertDate.toString()); String convStr = formatDate.format(date); System.out.println(“Date from database: ”+convertDate.toString()); System.out.println(“java.util.Date: “+date.toString()); System.out.println(“String date: “+convStr);ขอแปะ code ไว้ก่อนแล้วจะมาอธิบายนะครับ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)